ยีนส์ “ผู้ประกอบการ” เกิดมาเป็นเลย หรือว่าเรียนรู้ที่จะเป็น คนบางคนมีลักษณะนิสัยที่เหมาะแก่การเป็นผู้ประกอบการเสียเหลือเกิน Present เก่ง พูดแล้วคนคล้อยตาม เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก แถมยังมีความกระตือรือร้นที่จะหาอะไรใหม่ ๆ มาทำ เรียกได้ว่า ไม่เคยเป็นผู้ตาม แถมยังมีไฟที่จะก้าวก่อนรวมทั้งเห็นก่อนในสิ่งที่คนอื่นยังไม่เห็นอยู่เสมอ แล้วสิ่งเหล่านี้ มันมาจากไหนกันเล่า มัน Born to be หรือว่า ต้องอาศัยการเรียนรู้?

เท่าที่ดิฉันสังเกตุจากคนใกล้ตัว พื้นฐานของครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ หากใครเกิดมาในครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการมาโดยกำเนิด traits หรือลักษณะของการเป็นผู้ประกอบการมักจะติดตัวมาตั้งแต่เกิด คือเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ชอบคิดชอบหาอะไรใหม่ ๆ มาทำ เป็นนักขายชั้นเยี่ยม และอยากที่จะมีกิจการเป็นของตัวเองอย่างรุนแรง ผิดกับเพื่อนที่เกิดมาในครอบครัวที่เป็นข้าราชการ ทหาร หรือพนักงานประจำ ที่พอเรียนจบมา ก็มักจะฝังตัวอยู่ในองค์กรแล้วก็เติบโต ที่นี้พอทำงานได้สักระยะ เงินเดือนสูงขึ้น ก็ไม่อยากทิ้งเงินเดือนหลักแสน มาเริ่มพับแขนเสื้อเป็นผู้ประกอบการเสียแล้ว
ทั้งนี้ ไม่มีอะไรผิด อะไรถูกทั้งนั้นนะคะ เป็นผู้ประกอบการ ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าทำงานประจำ แล้วก็ไม่ได้แปลว่ารายได้มากกว่าด้วย โดยเฉพาะในสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นกับจังหวะ โอกาส ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า ว่าเราเหมาะที่จะเป็นอะไร
ดิฉันว่าเด็กน้อย เรียนรู้ อยากทำตามแบบจากผู้ใหญ่รอบตัวมากกว่า สิ่งที่พ่อแม่คุยกันตั้งแต่เด็กตัวเล็กอยู่ในท้อง คุยกันบนโต๊ะอาหาร หรือลูกน้อยตามพ่อแม่ไปโรงงาน ไปดู Suppliers ตั้งแต่เล็ก หรือได้ยินน้าต่อรองกับคู่ค้าตั้งแต่เด็ก สิ่งเหล่านี้ ทำให้คนคนหนึ่งแตกต่างจากอีกคนหนึ่ง เด็กที่อยู่ในครอบครัวค้าขาย เห็นพ่อแม่เจรจาพูดคุยทำงานตั้งแต่จำความได้ มีหรือที่จะไม่อยากเป็นเหมือนพ่อแม่ (ยกเว้นเด็กที่ถูกบังคับ ฝืนใจ จนเห็นการค้าขายเป็นเรื่องไม่สนุก หรือเด็กที่ไม่ชอบธุรกิจที่พ่อแม่ทำมา) การที่เด็กเกิดมาในครอบครัวผู้ประกอบการเช่นนี้ ย่อมปลูกฝังความรักในอาชีพที่จะเป็นนายตัวเอง ฝังลึกลงในจิตใต้สำนึกตั้งแต่เล็กโดยที่ไม่รู้ตัว นี่ยังไม่นับรวม DNA ที่มาจากปู่ย่าที่มีลักษณะนิสัยที่ทำให้เป็นผู้ประกอบการโดยธรรมชาติ
มีบทความหนึ่งเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องของ genes ว่าคนเราเกิดมาเป็นผู้ประกอบการ หรือเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ประกอบการกันแน่ Scott Shane, อาจารย์ทางด้านผู้ประกอบการจากมหาวิทยาลัย Case Western Reserve และผู้เขียนหนังสือ Born Entrepreneurs, Born Leaders: How Your Genes Affect Your Work Life กล่าวไว้ว่า บางทีการเป็นผู้ประกอบการอาจจะมาจาก genes เลยก็เป็นได้ เพราะจากการสอบถามผู้ประกอบการว่า “คุณคิดว่าคุณเกิดมาเป็นผู้ประกอบการใช่หรือไม่” คำตอบส่วนใหญ่ก็คือ “ ใช่!”
เมื่อผู้ประกอบการส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าตนเองนั้น เกิดมาเพื่อเป็นผู้ประกอบการ ดังนั้น Shane จึงลองทำการศึกษาว่า Entrepreneurial traits เหล่านี้เกิดจาก genes หรือเปล่า หรือการเรียนรู้มีผลบ้างหรือไม่
ผลวิจัยของอาจารย์ Shanes และทีมงานได้ทำการศึกษาผู้ประกอบการที่เป็นแฝดกัน มีทั้งแฝดเหมือนที่มียีนส์เหมือนกัน 100% กับแฝดคล้ายที่มียีนส์เหมือนกันประมาณ 50% ผลวิจัยแสดงว่า พวกเขาได้เจอ “ยีนส์ผู้ประกอบการ” ที่เหมือน ๆ กันจากในแฝดเหมือนในอัตราส่วนที่สูง ที่ทำให้พวกเขาเป็นผู้ประกอบการที่มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าการเป็นผู้ประกอบการนั่นเป็นมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่ระดับ DNA ไม่ใช่จากการเลี้ยงดู สั่งสอน และมันถูกฝังลึกมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่าแล้ว
เพื่อนของดิฉันคนหนึ่ง เป็นนักขายมือทอง สามารถสร้างความลุ่มหลงให้ผู้ฟังซื้อสินค้าได้โดยไม่รู้ตัว สามารถพูดเสียจนพนักงานทำงานอย่างถวายหัวได้ เคยได้รับคำชมจากผู้บรรยายตอนที่ไปร่ำเรียนวิชาการเจรจาการค้าว่า เป็นคนอย่างนี้ ขายน้ำแข็งที่อลาสก้าก็ขายได้ เคยเล่าให้ดิฉันฟังว่า เขาโตมากับบรรยากาศการค้าขายแต่เด็ก “โตมาก็ได้ยินแม่ต่อรองราคาสินค้า ได้ยินพ่อขายให้กับลูกค้า แล้วเวลาทานข้าว เรื่องการทำธุรกิจก็เป็นเรื่องที่ครอบครัวคุยกันตลอด” ดังนั้นเมื่อมีตัวอย่างที่ดี ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาทุกๆ วัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะมีทักษะการพูดที่ดีเหลือเกิน มากไปกว่านั้น ความขยันของครอบครัวคนจีนของเขาที่ค้าขายไม่มีวันหยุดโดยมีอาม่าที่ไม่เคยหยุดนิ่งหรือพักผ่อนให้ลูกหลานเห็น ทำให้เขามีความขยันอยู่สูง คิดหาอะไรใหม่ ๆ ทำอยู่เสมอ ไม่เคยงอมืองอเท้าหรือโทษโชคชะตา เวลาใคร ๆ บอกว่า “ทำไมขยันจังเลย เก่งจัง” คำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอคือว่า “โอ้โห นี่ผมยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของอากงเลยนะ” ไม่แปลกหรอกค่ะที่ความเก่งของอากงจะฝังอยู่ใน DNA และบรรยากาศของครอบครัวที่หล่อหลอมให้เขาเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้
แต่ในทางกลับกัน จริงอยู่ที่สิ่งเหล่านี้อาจจะถูกฝังมาในตัวเราตั้งแต่เด็ก แต่หากว่าเราถูกเลี้ยงมาให้รักสบาย ไม่ขยัน ถูกเงาของสังคมฉาบฉวยให้ยืดถือและต้องการความสำเร็จง่ายๆ เร็วๆ ที่มีรากฐานง่อนแง่น หรือไม่มี Vision ที่จะสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ให้แก่ธุรกิจได้ ถึงแม้คุณจะมี DNA ของความเป็นผู้ประกอบการมากขนาดไหน อยู่ในครอบครัวที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจขนาดไหน แต่คุณอาจจะไม่สามารถที่จะสร้างความร่ำรวยได้มากกว่าสิ่งที่พ่อแม่เคยสร้างเอาไว้ก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้น เขาจะมีคำพูดหรือคะว่า ยากเหลือเกินที่ธุรกิจครอบครัวจะสามารถยิ่งใหญ่ได้เกิน 3 รุ่น
แต่ในเมื่อเรื่องของ DNA การเลี้ยงดู เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หากเรามีความใฝ่ฝัน อยากที่จะเป็นผู้ประกอบการที่ดี สิ่งที่เราทำได้คือการศึกษาเกี่ยวกับมัน เรียนรู้และสร้างประโยชน์จากความใฝ่ฝันของคุณให้ได้มากที่สุด ถึงแม้คุณอาจจะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่เป็นผู้ประกอบการ แต่ถ้าคุณอยากจะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ คุณก็สามารถทำวันนี้ให้ดีที่สุด เรียนรู้จากคนเก่งๆ อ่านให้มาก ดูให้มาก รวมทั้งการมี Vision ที่ก้าวไกล และที่สำคัญ “อย่าขี้เกียจหรือรักสบาย” ความขี้เกียจไม่สามารถสร้่างความร่ำรวยให้กับใครได้ เรื่องของ DNA หรือเรื่องของอดีต เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้นี่นา แต่สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงได้ คือเรื่องของ “วันนี้” และ “ อนาคต”
ดิฉันเชื่อเหลือเกินว่า สิ่งเหล่านี้ เรียนรู้ได้ ความชอบ ความอยากของเรา ย่อมทำให้เราสามารถไปถึงฝั่งฝันได้ ถึงแม้ครอบครัวของคุณจะไม่ได้เป็นผู้ประกอบการเลย เป็นทหาร มีคุณพ่อคุณแม่รับราชการมาตลอดชีวิต แต่เมื่อคุณมีความฝัน คุณเรียนรู้และหลักแน่นกับมัน แน่นอนว่าคุณย่อมสามารถท่ี่จะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จได้ แค่นี้ DNA ก็สู้ความมานะไม่ได้แล้วค่ะ เอาใจช่วยนะคะ